Top Story TH

Top Story TH


Loading...

Sunday, February 23, 2020

พระอุปการะเด็ก กว่า 100 ชีวิต แบกภาระเลี้ยงดูเด็กกำพร้า ส่งเรียนจนจบ

พระอุปการะเด็ก กว่า 100 ชีวิต แบกภาระเลี้ยงดูเด็กกำพร้า ส่งเรียนจนจบ,พระอุปการะเด็ก กว่า 100 ชีวิต แบกภาระเลี้ยงดูเด็กกำพร้า ส่งเรียนจนจบ

เรื่องราวที่น่าชื่นชมอย่างมากในสังคมไทยปัจจุบัน ใครได้รู้เรื่องราวดังกล่าวก็ต้องประทับใจ เมื่อพระผู้มีหัวใจเทวดา อุปการะ เด็กมาแล้วกว่า 100 คน ทั้งส่งเรียน และอบรมสั่งสอน เพื่อความหวังเดียวคือต้องการให้พวกเขาเติบโตเป็นคนดีของสังคม  เพื่อป้องกันปัญหาเด็กที่อยู่ในสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า ที่ต้องโตมาในสภาพแวดล้อมไม่ดี

ปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาที่ "พระครูสมุห์ทองมา อคคธมโม หรือหลวงพ่อทองมา" อายุ 50 ปี บวชมา 26 พรรษา เจ้าอาวาสวัดป่าดอนใหญ่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา มองมาโดยตลอด กระทั่งวันหนึ่งเจ้าอาวาสต้องการแบกรับภาระไว้เอง

เนื่องจากสงสารเด็กตาดำๆ ที่ไม่เป็นที่ต้องการของผู้ที่ได้ชื่อว่าพ่อแม่ ท่านยอมเหนื่อยยื่นมือรับเด็กๆ มาอุปการะเลี้ยงดูให้ข้าว ให้น้ำ ให้นม ให้การศึกษา ให้ธรรมะกับพวกเขา หวังไว้สิ่งเดียวคือให้เขาเติบโตขึ้นมาเป็นคนดีของสังคม

หลวงพ่อทองมา บอกว่า อาตมาศึกษาพระธรรมมาพอสมควร ทั้งงานทางโลก-ทางธรรมปฏิบัติอย่างเคร่งครัดมาโดยตลอด เมื่อ 20 กว่าปีก่อนพบว่าประเทศไทยมีเด็กๆ ที่ประสบปัญหาครอบครัวยากจน,

พ่อแม่เลิกราไปมีครอบครัวใหม่ หรือแม้กระทั่งพ่อแม่อยู่ในวัยที่ไม่พร้อมมีลูก ทำให้เกิดปัญหาต่างๆ มากมาย ส่งผลให้เด็กที่เกิดมาโดยที่เขาไม่ได้รับรู้เรื่องราวของพ่อแม่ เด็กบางคนถูกนำไปทิ้งในป่า ไม่ก็ข้างถนน โชคดีมีคนพบ โชคร้ายก็ถูกมดเเมลงหรือสัตว์กัดแทะจนต้องເสียชีวิต เป็นเรื่องที่น่าเศร้า และดูจะไม่ยุติธรรมสำหรับเด็กๆ เหล่านั้นเลย

กระทั่งปี 2540 ไปพบเด็กชายคนหนึ่งมีปัญหาพ่อแม่ แยกทาง กัน ส่งผลให้เด็กขาดการดูแลเอาใจใส่เลี้ยงดูอย่างที่ควรจะเป็น จึงลองเอ่ยปากถามโยมพ่อแม่ของเด็กว่าอยากจะให้อาตมาช่วยเลี้ยงดูอุปการะหรือไม่

พ่อแม่เด็กยินยอมพร้อมยกให้อย่างดีอกดีใจ ตั้งแต่นั้นมาเป็นจุดเริ่มต้นจนถึงทุกวันนี้ที่ส่งเสียเลี้ยงดูอุปการะเด็กที่มีปัญหาทางครอบครัว หรือทางสังคมมากว่า 30 รุ่น มากกว่า 100 คน ส่งเสียให้เรียนจนจบจนสุดความสามารถของเด็กที่จะเรียน และพอใจ

พระนักบุญ บอกต่อว่า อาตมาไม่ได้เป็นพระที่ร่ำรวยมีเพียงเงินจากรับกิจนิมนต์สวดมนต์ตามงานบุญ และก็มีปัจจัยจากชาวบ้านภายในหมู่บ้านบ้านดอนใหญ่ และชาวบ้านในตลาดด่านขุนทดที่ทุกๆ เช้าอาตมาและพระเณรเดินบิณฑบาตข้าวน้ำมา เพื่อเลี้ยงดูอุปการะเด็กเหล่านี้ จนเติบใหญ่แข็งแรงพอที่จะมีความรู้ความสามารถออกไปเผชิญกับโลกภายนอก

ที่รับอุปการะเป็นเด็กผู้ชายทั้งหมด และก็ไม่ใช่ว่าจะรับเลี้ยงทุกคน เพราะไม่มีกำลังมากพอที่จะหาเงินมาส่งเสียเล่าเรียนได้ขนาดนั้น เป็นสิ่งที่ต้องพิจารณาเป็นคนๆ ไป เด็กแต่ละคนที่ผ่านมานั้นก็มีอายุมากน้อยต่างกันไป ล่าสุดเมื่อ 2-3 ปีก่อนรับอุปการะเด็กชายคนหนึ่งอายุแค่ 2 เดือนเพิ่มมาอีกคน ปัจจุบันอายุ 2 ขวบแล้ว

"เด็กคนนี้ก็เลี้ยงเหมือนเด็กคนอื่นๆ กินข้าวกินน้ำกินนมจากที่อาตมา และพระเณรออกไปบิณฑบาตจากชาวบ้าน วันไหนมีนมก็ได้กินนม วันไหนมีน้ำเต้าหู้ก็กินน้ำเต้าหู้แทนนม จากปี 40 เลี้ยงดูอุปการะเด็กมาแล้วกว่า 100 คน ส่วนการส่งเสียเล่าเรียนจะถามเด็กว่าอยากบวชเณร-บวชพระไหม

ถ้าอยากบวชก็จับให้บวชศึกษาพระธรรมด้วยศึกษาทางโรงเรียนปริยัติธรรมวิชาทางโลกด้วย ที่โรงเรียนสัทธรรมวิทยาหรือโรงเรียนสอนพระเณรตั้งอยู่ที่ วัดศาลาลอย ในตัว อ.ด่านขุนทด

ส่วนเด็กคนไหนไม่อยากบวชหรือยังไม่พร้อมบวชก็เดินเรื่องเอกสารฝากเรียนโรงเรียนในหมู่บ้านดอนใหญ่จนจบชั้น ป.6 เมื่อจบแล้วก็บังคับให้บวช เพราะจะได้ส่งเรียนทางโรงเรียนพระเณรต่อไปเนื่องจากค่าใช้จ่ายไม่สูงมากนัก และยังได้ศึกษาพระธรรมเพื่อขัดเกลาจิตใจไปด้วยทางหนึ่ง"

เจ้าอาวาสฯ บอกอีกว่า เด็กบางคนบวชเรียนจนจบปริญญาตรี จบออกไปทำงานเป็นทหาร เป็นครู เป็นพนักงานห้างร้านต่างๆ มากมายหลายต่อหลายรุ่น ภูมิใจในตัวเขามากๆ อาตมาไม่ได้มุ่งหวังให้พวกเขากลับมาตอบแทนบุญคุณอะไร

เพียงแต่อยากพบเจอ อยากเห็นหน้าบ้าง ที่สำคัญที่สุดอยากให้พวกเขานำความรู้ และหลักธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าไปใช้เพื่อประโยชน์ต่อเพื่อนมนุษย์ และเป็นคนดีของสังคมต่อไป

 

 

แหล่งที่มา : ninegoodtoday.com , khaomedia.net

,เรื่องราวที่น่าชื่นชมอย่างมากในสังคมไทยปัจจุบัน ใครได้รู้เรื่องราวดังกล่าวก็ต้องประทับใจ เมื่อพระผู้มีหัวใจเทวดา อุปการะ เด็กมาแล้วกว...

คุณยาย 2 พี่น้อง อายุ 98 ปี และ 101 ปี ได้กลับมาพบหน้ากัน หลังพลัดพรากกันไปนาน

คุณยาย 2 พี่น้อง อายุ 98 ปี และ 101 ปี ได้กลับมาพบหน้ากัน หลังพลัดพรากกันไปนาน,คุณยาย 2 พี่น้อง อายุ 98 ปี และ 101 ปี ได้กลับมาพบหน้ากัน หลังพลัดพรากกันไปนาน

เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวน่าประทับใจ เป็นเรื่องราวของคุณยายชาวกัมพูชาสองพี่น้อง อายุ 98 ปี และ 101 ปี ได้กลับมาพบหน้ากันเป็นครั้งแรก หลังจากพลัดพรากจากกันนาน 47 ปี โดยต่างฝ่ายต่างคิดว่า อีกคนเสีຍชีวิตไปแล้ว ในช่วงที่เขมรแดงปกครองกัมพูชาอย่างโหดร้ายในยุคทศวรรษ 1970

องค์กรเอกชนในพื้นที่ระบุว่า บุน เซน วัย 98 ปี ยังได้พบกับน้องชายของเธออายุ 92 ปี ด้วย โดยเธอคิดว่าเขาเสีຍชีวิตไปแล้วเช่นกัน

คุณยายทั้ง 2 คน ได้พบหน้ากันครั้งสุดท้ายในปี 1973 หรือ 2 ปี ก่อนที่ฝ่ายคอมมิวนิสต์ที่นำโดยพอลพต จะกุมอำนาจปกครองกัมพูชา

คาดว่า มีผู้คนราว 2 ล้านคนเสีຍชีวิตในช่วงที่เขมรแดงปกครองประเทศ ในช่วงเวลานั้น หลายครอบครัวต้องบ้านแตกสาแหรกขาด เด็ก ๆ ถูกพรากจากอกพ่อแม่ ในช่วงที่กลุ่มเขมรแดงพยายามที่จะควบคุมกัมพูชาอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด

บุน เซน สูญเสียสามีในช่วงที่เขมรแดงเรืองอำนาจ ก่อนที่จะถูกโค่นล้มในปี 1979 เธอได้มาตั้งรกรากอยู่ใกล้กับบ่อขยะในเมืองสตึงเมียนเจย (Stung Meanchey) ในกรุงพนมเปญของกัมพูชา

เธอต้องหาเลี้ยงตัวเองด้วยการคุ้ยขยะ เก็บเศษขยะที่นำไปรีไซเคิลได้ไปขๅย และดูแลลูก ๆ ที่เติบโตมาในย่านที่ยากจนแร้นแค้นนี้ แต่ด้วยปัจจัยหลายอย่าง รวมถึงอายุที่มากและการที่เธอเดินไม่ได้ ทำให้การเดินทางเป็นเรื่องลำบากเกินไป

กองทุนเด็กกัมพูชา ซึ่งเป็นองค์กรเอกชนในพื้นที่ที่ให้การช่วยเหลือ บุน เซน ตั้งแต่ปี 2004 ได้เริ่มพยายามที่จะพาเธอกลับไปเยี่ยมบ้าน

จากนั้นจึงพบว่า พี่สาวและน้องชายของ บุน เซน ยังคงมีชีวิตอยู่ และอาศัยอยู่ในหมู่บ้าน

หลังจากเกือบครึ่งศตวรรษ บุน เซน ก็ได้กลับมาพบหน้า บุน เจีย พี่สาวคนโต และน้องชายของเธออีกครั้งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

"ฉันออกจากหมู่บ้านไปนานมาก แล้วก็ไม่เคยกลับมาอีกเลย ฉันคิดว่า พี่น้องคงจะตๅยไปแล้ว" บุน เซน เล่า

"การได้กอดพี่สาวมีความหมายมาก น้องชายก็ได้จับมือฉันเป็นครั้งแรก แล้วฉันก็เริ่มร้องไห้"

สามีของ บุน เจีย ถูกเขมรแดงสังหารเช่นกัน ทำให้เธอต้องกลายเป็นหม้ายเลี้ยงดูลูก 12 คน เธอกล่าวว่า เธอเชื่อเช่นกันว่า น้องสาวเสีຍชีวิตไปแล้ว

"เรามีญาติ 13 คนที่ถูกพอล พต ทำร้าย แล้วเราก็เชื่อว่า เธอคงเสีຍชีวิตไปแล้วเหมือนกัน มันผ่านมานานมากแล้ว" เธอกล่าว

ตอนนี้ พี่น้องได้กลับมาใช้เวลาร่วมกัน สัปดาห์นี้ พวกเธอได้เดินทางเยือนกรุงพนมเปญด้วยกัน

"เราพูดถึงเธอ" บุน เจีย กล่าว "แต่เราไม่เคยคิดว่า จะได้เจอหน้าเธออีกครั้ง"

แหล่งที่มา: bbc

เรียบเรียงโดย ยิ้มสยาม

,เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวน่าประทับใจ เป็นเรื่องราวของคุณยายชาวกัมพูชาสองพี่น้อง อายุ 98 ปี และ 101 ปี ได้กลับมาพบหน้ากันเป็นคร...

จดสูตรไว้เลย “ขนมชั่งหัวมัน” เมนูขนมสร้างรายได้ดี ขั้นตอนการทำไม่ยาก

จดสูตรไว้เลย "ขนมชั่งหัวมัน" เมนูขนมสร้างรายได้ดี ขั้นตอนการทำไม่ยาก,จดสูตรไว้เลย "ขนมชั่งหัวมัน" เมนูขนมสร้างรายได้ดี ขั้นตอนการทำไม่ยาก

สวัสดีค่ะ วันนี้จะพาเพื่อน ๆ เข้าครัว ทำขนมอร่อย ๆ ขนมที่ว่านี้ก็คือ "ขนมชั่งหัวมัน" หรือ "ขนมมันนึ่ง" นั่นเอง สูตรที่นำมาบอกต่อวันนี้เป็นสูตรเด็ดจากที่สร้างรายได้มหาศาล จาก "คุณยาย ทันสมัย" ขั้นตอนการทำง่าย ๆ แต่ร้างรายได้ดี มีขนมอร่อยกิน แบบนี้คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม จะทำกินทำขๅยก็รีบจดสูตรนี้ไว้เลยนะคะ

ส่วนผสม

1. มันสำปะหลังหั่นเต๋าหรือขูด 1 กิโลกรัม (แนะนำมันพันธุ์ 5 นาที เพราะสุกง่าย)

2. น้ำสะอาด 1 ลิตร

3. น้ำตาลทราย 1 กิโลกรัม

4. แป้งมัน 100 กรัม

5. มะพร้าวทึนทึก 500 กรัม

6. เกลือป่น 2 ช้อนชา

วิธีทำ

1. นำน้ำและน้ำตาลทรายตั้งไฟให้ละลาย แค่พอน้ำเดือดก็ปิดไฟ ยกลงพักไว้ให้เย็น

2. พอน้ำตาลเย็นดีแล้ว นำมันสำปะหลังมาผสมกับน้ำแล้วนำไปปั่นให้ละเอียด

3. ใส่แป้งมันลงผสมกวนให้เข้ากัน

4. นำไปแบ่งสีตามชอบสีอ่อนไว้นะคะจะหน้าตาน่าทาน

5. ตั้งน้ำให้เดือดนำขนมที่ผสมสีเรียบร้อย แล้วใส่ถาดนึ่ง ให้หนาสักครึ่งนิ้วหรือน้อยกว่าตามสมควร

6. นึ่งนานสัก 10 นาที ยกลงตั้งไว้ให้เย็นค่อยมาตัดคลุกมะพร้าว

7. มะพร้าวทึนทึกผสมเกลือพอมันๆ

8. ตัดขนมที่นึ่งเสร็จแล้วเป็นริ้วๆ และเป็นชิ้นเล็กๆ โรยด้วยมะพร้าวขูดขๅว จัดใส่กล่องแพ็คขๅยได้เลยค่ะ

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ ทำไม่ยากเลยใช่ไหม แบบนี้ต้องลองเอาไปทำกันดู รับรองอร่อยติดใจแน่นอน

 

 

แหล่งที่มา : babban.club

,สวัสดีค่ะ วันนี้จะพาเพื่อน ๆ เข้าครัว ทำขนมอร่อย ๆ ขนมที่ว่านี้ก็คือ "ขนมชั่งหัวมัน" หรือ "ขนมมันนึ่ง" นั่นเอง สูตรที่นำมาบอกต่อวันนี...

รวม 6 สูตรน้ำสมุนไพรสร้างรายได้ ทำง่าย บรรจุขวดจำหน่าย กำไรดี

รวม 6 สูตรน้ำสมุนไพรสร้างรายได้ ทำง่าย บรรจุขวดจำหน่าย กำไรดี,รวม 6 สูตรน้ำสมุนไพรสร้างรายได้ ทำง่าย บรรจุขวดจำหน่าย กำไรดี

วันนี้มีสูตรความรวยมาแจกกันค่ะ บอกสูตรน้ำสมุนไพรกันไปฟรี 6 สูตร จะทำ สร้างรายได้ หรือทำดื่มที่บ้านก็ได้เลยนะคะ สูตรน้ำสมุนไพรที่คนนิยมดื่มมากที่สุด หลายตั้งเอาไปตั้งที่ตลาดเผลอแป้บเดียวหมดแน่ๆ 6 สูตรที่ว่านั้นจะมีอะไรบ้างไปดูเลยค่ะ

1 น้ำหล่อฮั้งก้วย

ส่วนผสม

– หล่อฮั้งก้วย 4-5 ผล

– น้ำเปล่า 3 ลิตร

– ดอกเก๊กฮวยตากแห้ง 2 กำมือ

– น้ำตาลทราย

วิธีทำน้ำหล่อฮั้งก้วย

1 ให้เรานำผลหล่อฮั้งก้วยมาล้างน้ำให้สะอาด จากนั้นบิให้แตกเป็นชิ้นเล็กๆ นำใส่ลงไปในหม้อต้มแล้วทำการเทน้ำเปล่าลงไป แช่ทิ้งเอาไว้นานประมาณ 30 นาที

2 เมื่อครบเวลาให้นำหม้อขึ้นตั้งไฟอ่อนๆ ใส่ดอกเก็กฮวยตากแห้งตามลงไป เคี่ยวไปเรื่อยๆนานประมาณ 30 นาที และให้เติมน้ำตาลทรายลงไปชิมรสชาติ เมื่อครบเวลาให้ปิดไฟ พักทิ้งไว้ให้เย็น

3 นำน้ำหล่อฮั้งก้วยไปกรองผ่ านตะแกรงหรือผ้าขๅวบางรอจนเครื่องดื่มหายร้อน บรรจุใส่ขวดพร้อมดื่มพร้อมขๅยได้เลย

2 น้ำเสาวรส

ส่วนผสม

– เนื้อเสาวรส 2 กิโลกรัม

– น้ำเปล่า 2 ลิตร

– น้ำตาลทราย 800 กรัม

– เกลือป่นหยาบ 2 ช้อนชา

วิธีทำน้ำเสาวรส

1 ให้นำเนื้อเสาวรสใส่ลงไปในน้ำเปล่าและใส่ลงไปในโถปั่นน้ำผลไม้ทำการปั่น จากนั้นเทใส่ลงหม้อยกขึ้นตั้งไฟใส่น้ำตาลทรายและเกลือป่นลงไป

2 คนส่วนผสมจนน้ำตาลทรายละลายเข้ากันดี จากนั้นยกกรองผ่ านกระชอนหรือผ้าขๅวบาง วางพักไว้ให้หายร้อนบรรจุใส่ขวดได้เลย

3 น้ำมะตูม

ส่วนผสม

– มะตูมแห้ง 10 ชิ้น

– น้ำ 2 ลิตร

– น้ำตาลทรายแดง 100 กรัม

วิธีทำน้ำมะตูม

1 ให้เรานำมะตูมแห้งไปคั่วในกระทะจนได้กลิ่นหอม เตรียมเอาไ ว้จากนั้นให้เราใส่น้ำลงหม้อนำขึ้นตั้งไฟด้วยไฟปานกลาง ตามด้วยการใส่มะตูมที่เราคั่วเอาไว้ใส่ลงไป เราจะสังเกตได้ว่าน้ำจะเปลี่ยนสี ต้มนานประมาณ 30 นาที

2 ใส่น้ำตาลทรายแดงลงไปคนส่วนผสมให้น้ำตาลละลายเข้ากันดี ชิมรสชาติเมื่อได้รับชาติที่ได้ที่แล้วยกลงจากเตากรองเอากากออก พักเอาไว้ให้หายร้อนบรรจุใส่ขวดพร้อมดื่มได้เลย

4 น้ำกระเจี๊ยบ

ส่วนผสม

– ดอกกระเจี๊ยบแดงแห้ง 2 กำมือ

– พุทราจีน 2 กำมือ

– น้ำ 3 ลิตร

– เกลือป่น 2 ช้อนชา

– น้ำตาลทราย 1 ถ้วย

วิธีทำน้ำกระเจี๊ยบ

1 ล้างดอกกระเจี๊ยบแดงแห้งและพุทราจี นในน้ำสะอาด เอาเศษฝุ่นออก ( อย่าแช่น้ำนานเพราะจะทำให้เสียรสชาติและคุณค่าทางอาหาร )

2 ต้มน้ำจนเดือดแล้วใส่กระเจี๊ยบกับพุทราจี นลงไปต้ม เคี่ยวจนน้ำเริ่มเปลี่ยนสี เติมเกลือป่น และน้ำตาลทรายลงไป คนผสมให้ละลาย ( ชิมรสตามต้องการ ) ยกลงกรองเอากากออก รอจนอุ่นหรือเย็น บรรจุใส่ขวดได้เลย

5 น้ำอัญชันมะนาว

ส่วนผสม 

– น้ำ 2 ถ้วยตวง

– ดอกอัญชันสด 100 กรัม

– น้ำเชื่อม 4 ช้อนโต๊ะ

– น้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ

– น้ำมะนาว

วิธีทำน้ำอัญชันมะนาว

1 ใส่น้ำลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟต้มจนเดือด ใส่ดอกอัญชันลงต้ม ปิดฝาทิ้งไว้ประมาณ 2-3 นาที ยกลงจากเตา ยกลงกรองดอกอัญชันออก เอาเฉพาะน้ำเตรียมไว้

2 ทำการผสมน้ำดอกอัญชันกับน้ำเชื่อม น้ำผึ้ง และน้ำมะนาว คนผสมให้เข้ากัน พักทิ้งไว้จนเย็น บรรจุใส่ขวด พร้อมดื่ม

6 น้ำเก๊กฮวย

ส่วนผสม

– ดอกเก๊กฮวย 1 กำมือ

– น้ำ 2 ลิตร

– น้ำตาลทราย 500 กรัม

– ใบเตย 10 ใบ

วิธีทำน้ำเก๊กฮวย

1 ให้ทำการต้มน้ำกับใบเตยรอจนเดือดตามด้วยการใส่ดอกเก็กฮวยลงไป ให้เราทำการเคี่ยวสักพักตามด้วยการใส่น้ำตาลทรายคนให้น้ำตาลทรายละลายเข้ากันดีจนเดือนอืกครั้ งปิดไฟพักเอาไว้ให้หายร้อน

2 จากนั้นให้นำมากรองด้วยผ้าขๅวบาง พร้อมกับบรรจุใส่ขวดพร้อมดื่มได้เลย

สำหรับ 6 สูตรน้ำสมุนไพร ใครอยากลองทำดื่มเองก่อนก็ได้นะคะ รับรองว่าติดใจรสชาติแน่นอน ส่วนใครที่บรรจุขวดจำหน่าย รวยแน่นอนจ้า

 

 

 

แหล่งที่มา : postsod.com

,วันนี้มีสูตรความรวยมาแจกกันค่ะ บอกสูตรน้ำสมุนไพรกันไปฟรี 6 สูตร จะทำ สร้างรายได้ หรือทำดื่มที่บ้านก็ได้เลยนะคะ สูตรน้ำสมุนไพรที่คนนิย...

สูตรผัดกะเพราแห้ง อร่อยจนวางช้อนไม่ลง นี่แหละรสชาติกะเพราแท้ ๆ

สูตรผัดกะเพราแห้ง อร่อยจนวางช้อนไม่ลง นี่แหละรสชาติกะเพราแท้ ๆ,สูตรผัดกะเพราแห้ง อร่อยจนวางช้อนไม่ลง นี่แหละรสชาติกะเพราแท้ ๆ

วันนี้จะพาทุกคนมาทำ ผัดกะเพราแห้ง สูตรกะเพราแท้ ๆ ที่หลายคนไม่รู้มาก่อน ผัดกะเพราตามร้านอาหารตามสั่งหลายร้านรสชาติไม่โดนใจอาจจะเพราะไม่รู้สูตรที่แท้จริง วันนี้เรานำวิธีทำอย่างละเอียดมาบอกต่อแล้ว ใครที่ชอบเมนูนี้พลาดไม่ได้เลย

เตรียมกระเพราและพริกจ้า กระเพราถ้าเป็นกระเพราปลูกเองจะหอมมาก

ล้างให้สะอาด

เตรียมพริก มีพริกแห้ง พริกสดจินดาแดง พริกขี้หนูสวน

กระเทียม

พริกกระเทียมมาโขกให้ละเอียด

เตรียมหมูสับ

หลังจากเตรียมเครื่องครบแล้ว ตั้งกระทะให้ร้อน นำพริกกระเทียมที่โขกมาลงกระทะ ใส่น้ำมันเล็กน้อย

ผัดไปสักพักนำหมูสับลงไป

ผัดไปเรื่อยๆจนหมูสุก

ปรุงรส น้ำตาล น้ำปลา ซอส ตามใจชอบ

หลังจากนั้นใส่ใบกะเพรา

เสร็จตักใส่จาน

เพิ่มเติมไข่ดาวทอดกรอบๆสักฟอง

เป็นไงบ้างคะหน้าตาน่าทาน ผัดกะเพราแบบแห้งๆ ที่ทำเองได้ที่บ้าน และได้รสชาติกระเพราที่แท้จริง ใครชอบก็จดสูตรนี้ไว้เลยจ้า

 

 

แหล่งที่มา : tkvariety.com

,วันนี้จะพาทุกคนมาทำ ผัดกะเพราแห้ง สูตรกะเพราแท้ ๆ ที่หลายคนไม่รู้มาก่อน ผัดกะเพราตามร้านอาหารตามสั่งหลายร้านรสชาติไม่โดนใจอาจจะเพราะไ...

สูตรเด็ดบอกหมดไม่มีกั้ก น้ำจิ้มซีฟู้ด รสชาติแซ่บซี้ด ทานคู่กับอร่อยก็อร่อย

สูตรเด็ดบอกหมดไม่มีกั้ก น้ำจิ้มซีฟู้ด รสชาติแซ่บซี้ด ทานคู่กับอร่อยก็อร่อย,สูตรเด็ดบอกหมดไม่มีกั้ก น้ำจิ้มซีฟู้ด รสชาติแซ่บซี้ด ทานคู่กับอร่อยก็อร่อย

วันนี้มีสูตร น้ำจิ้มซีฟู้ด รสเด็ด มาฝากทุกคนค่ะ เป็นสูตรที่ทำกินทำขๅยได้เลย น้ำจิ้มซีฟู้ดรสชาติเข้มข้น จิ้มได้ทุกเมนู อร่อยครบรส ด้วยขั้นตอนการทำง่าย วันนี้นำมาบอกกันแบบไม่มีกั้กเลย พร้อมแล้วไปเตรียมอุปกรณ์แล้วลงมือกันเลยค่ะ

ส่วนผสมที่ต้องเตรียม

1 ผักชี 4 ขีด

2 พริก 4 ขีด

3 กระเทียม 4 ขีด

4 น้ำตาลปี๊บ 1 กิโลกรัม

5 เกลือ 5 ช้อนแกง

6 น้ำร้อน 3 กระบวยครึ่ง

7 น้ำมะนาว 4 กระบวย

8 ผงชูรส ( ใส่ไม่ใส่ก็ได้อันนี้แล้วแต่ความชอบ )

ขั้นตอนในการทำน้ำจิ้มซีฟู๊ด

1 สำหรับขั้นตอนการทำนั้นก็ไม่ยาก ในขั้นตอนแรกเราจะเริ่มด้วยการต้มน้ำให้ร้อน จากนั้นให้เราทำการเตรียมชามผสมใบเล็ก 1 ใบหรืออาจจะเป็นหม้อก็ได้แล้วแต่ที่มี ให้เราใส่น้ำตาลปี๊บลงไป 1 กิโลกรัม ตามด้วยผงชูรส ( อันนี้แล้วแต่ความชอบจะใส่หรือไม่ใส่ก็ได้ )

2 ตามด้วยการใส่เกลือลงไป 5 ช้อนแกง และให้ใส่น้ำร้อนลงไปประมาณ 3 กระบวยครึ่ง เมื่อเราใส่น้ำร้อนลงไปแล้วให้เราคนส่วนผสมให้เข้ากันจนน้ำตาลปี๊บละลายเข้ากันดี

3 เมื่อส่วนผสมเข้ากันดี แล้วตามด้วยการใส่น้ำมะนาวสดลงไป 4-5 กระบวย ( น้ำมะนาวแนะนำให้ใช้เป็นมะนาวสด เพราะจะได้ความหอมและความเปรี้ยวที่อร่อยกว่ามะนาวขวด )

4 จากนั้นให้เราเตรียมผักชี 4 ขีด เราจะใช้ทั้งรากจนถึงใบ ใบที่เสียก็ให้เราเด็ดออก ตามด้วยกระเทียมปอก 4 ขีด พริกแดง 4 ขีด

5 ขั้นตอนถัดมาให้เรานำพริก กระเทียม ผักชีใส่ลงไปในเครื่องปั่นที่เราได้เตรียมไว้ ตามด้วยน้ำปรุงที่เราได้ทำเอาไว้ ใส่ลงไปพร้อมกับการปั่นให้เข้ากันดี โดยเราจะแยกกันเป็น 2 ครั้งเพื่อที่จะเครื่องปั่นไม่ทำงานหนักจนเกินไป ทั้งยังได้ส่วนผสมที่ละเอืยดเข้ากันดีด้วย

6 เมื่อเราปั่นส่วนผสมทั้งหมดเป็นที่เรียบร้อยแล้วให้เราเทใส่ในโหลแก้วหรือในหม้อที่มีฝาปิด หากเหลือก็สามารถนำเข้าตู้เย็นพร้อมกับปิดฝาให้สนิท

ขั้นตอนง่าย ๆ แค่นี้ ก็มีน้ำจิ้มซีฟู้ดรสเด็ดแซ่บซี้ด สูตรนี้สามารถเก็บใส่ในตู้เย็นได้นานเป็นเดือน ลองนำสูตรนี้ไปทำทาน กันได้นะครับ

 

 

แหล่งที่มา : beautyoflifes.com

,วันนี้มีสูตร น้ำจิ้มซีฟู้ด รสเด็ด มาฝากทุกคนค่ะ เป็นสูตรที่ทำกินทำขๅยได้เลย น้ำจิ้มซีฟู้ดรสชาติเข้มข้น จิ้มได้ทุกเมนู อร่อยครบรส ด้วย...
Loading...